Friday, 28 July 2017

แข่งกับตัวเอง โฟกัสอยู่กับตัวเอง :)

เวลาที่เห็นคนนั้นได้กำไรเท่านั้นเท่านี้ พอร์ตโตเท่านั้นเท่านี้ แล้วเรายังไปไม่ถึงไหน มันมักจะมีความรู้สึกอิจฉาซึ่งจะกระตุ้นให้เรายิ่งศึกษายิ่งเรียนรู้มากขึ้น อันนี้มันก็ดีอยู่นะ แต่ว่าการที่รีบเกินไปเร่งตัวเองเกินไป เอาวิธีที่คนนั้นใช้คนนี้ใช้มาใช้มันก็อาจจะทำให้เรามั่วกว่าเดิมก็ได้คือเหมือนไปเร่งตัวเองจนเสียจังหวะ 
.
คือบางทีความทุกข์มันก็มาจากการที่เราไปเสือกเรื่องของคนอื่นมากไป ยึดติดกับความสำเร็จของคนอื่นมากไป(เอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับเค้า) เอาชีวิตไปยึดติดกับความสำเร็จมากเกินไป จนเราเองรู้สึกอิจฉารู้สึกอยากทำได้แบบนั้นบ้างจนเกิดความทุกข์ โดยที่เราไม่ได้สนใจตัวเองเลยหรือยังไม่รู้จักตัวเองดีพอ
.
สุดท้ายแล้วเราต้องกลับมาโฟกัสกับตัวเอง แข่งกับตัวเอง รู้จักตัวเองให้ดีก่อนว่าเป้าหมายในชีวิตเราคืออะไร เราต้องการอะไร อยากได้ชีวิตแบบไหน วางเป้าหมายแล้วมาดูสิ่งที่เราทำอยู่ในวันนี้ว่าเราสมควรได้รับมันมั้ย โดยที่ไม่ต้องไปเสือกเรื่องของคนอื่นมาก และเรื่องอื่นๆที่ไร้สาระที่ไปเสพแล้วเสียเวลาชีวิต เพราะเวลาในชีวิตมันมีอยู่จำกัด อย่าไปเสพ Negative mind เสพสิ่งที่มันPositive mind อยากมีชีวิตยังไงเราเลือกได้
.
สรุปท้ายที่สุด สุดท้าย ก็คือ เสือกเรื่องของคนอื่นให้น้อย ปล่อยวางไปบ้าง แล้วเสือกเรื่องของตัวเองให้เยอะๆเข้าไว้ โฟกัสอยู่กับตัวเอง แข่งขันกับตัวเอง(ไม่เอาเปรียบเทียบกับใคร) ค่อยๆไปเรื่อยๆอย่าไปเร่งตัวเองเดี๋ยวจะเสียจังหวะ 
.
ฝึกฝนพัฒนาทักษะทุกวันไม่ต้องมากมายแต่ขอให้มากกว่าเมื่อวาน :)
,
,
,
จัส 
28 กรกฎาคม 2560 16:09

July Summary 2017

จบไปสำหรับเดือน กรกฎาคม 2560

เดือนนี้ได้ฝึก Daytrade ได้ประสบการณ์จากการ Daytradeมาเยอะมาก ตอนแรกๆหวดมั่วซั่วไปหมดจนมานั่งคิดว่าเราจะฝึกคุมอารมณ์ยังไงดีเพราะข้อผิดพลาดหลักๆคือเข้าไปไล่ราคาโดยไม่ดูอะไรเลย แบบเห็นตัวนี้ในTickerแล้วbiasคิดว่านิสัยมันเล่นแรงมันต้องมาแน่ๆ สรุปเข้าไปแล้วโดนทุบคัทเป็นสิบช่อง
จึงได้กำหนดกฎให้ตัวเองคือ 1.เล่นวันนึงได้แค่ไม่เกิน4ไม้ ถ้าเกินจากนั้นก็ไปเทรดในกระดาษ 2.ถ้าผิด2ไม้ติดให้หยุดเทรดชั่วคราวหรือไม่ก็ปิดจอไปเทรดตลาดบ่าย 3.ถาติดลบ2%คือต้องเลิก
หลังจากที่กำหนดกรอบขึ้นมาก็ทำให้เห็นข้อผิดพลาดตัวเองมากขึ้นเริ่มจับจุดและแก้ไขได้ หลักๆคือต้องรู้ตัวเอง ถ้าเมาหมัดคือต้องหยุดทันที ตลาดหุ้นไม่ได้ทำการวันสุดท้ายไม่มั่นใจ ขาดสติถ้ารู้ตัวก็รีบดึงตัวเองออกมา ตลาดยังมีวันทำการอีกหลายวัน เล่นได้ก็เล่น เล่นไม่ได้จะไปแจกตังทำไมละ?
Position sizeนี้โคตรสำคัญที่สังเกตตัวเองคือถ้าเล่นไม้ใหญ่ เข้าแล้วผิดทางเราจะมึนๆทำใจคัทไม่ได้เพราะถ้าคัทนี้จุกเพราะไม้ใหญ่ แล้วกว่าจะมาตั้งสติแล้วทำใจคัทออกได้นี้ส่วนใหญ่โดนไป6-7ช่องะ พอลดลงมาเล่นไม้เล็กลงรู้สึกว่าเราคุมสติคุมอารมณ์ได้ดีกว่าเยอะเลย ช่วงนี้ก็คงต้องฝึกจากPosition sizeที่เหมาะสมกับตัวเองไปก่อน แล้วค่อยๆเพิ่มไปทีละนิด จะเพิ่มได้คือ Win rateเราต้องดีขึ้นก่อน
สิ่งที่สำคัญที่สุด สุดๆๆๆสำหรับการDaytradeคือ การเตรียมตัวเตรียมความพร้อม ถ้าเราไม่ได้เตรียมตัวเตรียมความพร้อมและทำการบ้านวางแผนมาก่อน เราจะเทรดแบบหน้ามืด มั่วไปหมด คุมตัวเองไม่ได้ มีอารมณ์เข้ามาเกี่ยวข้อง
พอแบ่งPortfolioเป็น พอร์ทสำหรับRun trend อีกพอร์ทนึงDaytrade รู้สึกโอเคขึ้นเยอะมากๆ รู้สึกปล่อยวางไม่ไปจิตตกกับหุ้นที่Run trendเวลามันขึ้นหรือมันลง
สรุปพอร์ทDaytrade หลังจากเริ่มเทรดมาได้ประมาณ5-6วัน NAV -3.8% ไปเสียเยอะตอนช่วงวันแรกๆที่เทรดมั่วไปหน่อย จนตอนนี้เริ่มลงตัวแล้ว ก็คงต้องค่อยๆเก็บชั่วโมงเทรดเก็บประสบการณ์ไปก่อนเรื่อยๆ



สำหรับพอร์ต Run trend

ช่วงต้นเดือนยังมีการใช้พอร์ตนี้เล่นDaytradeอยู่บ้าง
เข้าTMILL TMILL-W1ไป แต่ก็cut lossออกไปก่อนเพราะขึ้นมาอย่างสวยแต่ปักหัวลงมาซะงั้น

Return ของเดือนนี้ +6.20% หลักๆมาจากMGTที่เข้าซื้อได้ถูกจังหวะและถือRun มาเรื่อยๆ


YTD’s NAV 32.54% โดยคาดหวังว่าต้องทำให้ได้อย่างน้อย50%ในปีนี้ ได้ไม่ได้ก็ขึ้นอยู่กับตัวเองแล้วละว่าทำการบ้านหนักแค่ไหน เพราะกำไรตลาดเป็นคนให้ แต่หุ้นดีเราต้องหาเอง

Tuesday, 25 July 2017

TMILL ฟอร์มตัวขึ้นมาอย่างสวย ปักหัวลงมาเฉยเลย

11 กรกฎาคม 2560

เข้าซื้อ TMILL ที่4.78 stop loss 4.70 แผนคือ Run trend เข้าตอนชุดแรกไม่ทันก็ต้องเฝ้าและมาเข้าตอนที่มันย่อและย่ำๆนี่แหละ ที่สนใจเพราะ มันย่ำๆจนเห็นฐานชัด Risk-Rewardคุ้ม เพราะ stop loss นิดเดียว เข้าไปก่อนส่วนนึง ยืน5บาทได้ค่อยเก็บอีกไม้
ในส่วนของพื้นฐาน มีFree float 28.76% หุ้นทั้งหมด 342.26ล้านหุ้น งบQ1/2560 โตระเบิดมาก กำไรแค่ไตรมาสเดียวเกือบเท่ากับกำไรทั้งปี2559 กำไรออกมาโตขนาดนี้หุ้นวิ่งขึ้นมาแล้วกดไม่ลง คิดว่าคนยังมองว่าQ2จะออกมาดีจึงไม่ค่อยมีแรงขายออกมา มาลุ้นQ2/2560 ถ้าโตระเบิดอีกคิดว่าราคาน่าจะพุ่งต่อ


24 กรกฎาคม 2560

ขายTMILL ออกไปที่4.76 หลังเข้าซื้อไปเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2560 ที่4.78 10,000หุ้น ขึ้นไปแล้วหักหัวลงมาแบบนี้คัทออกไปก่อน ถ้าไม่หลุดแนวนี้ทำทรงVCPค่อยว่ากันใหม่

Tuesday, 18 July 2017

ฤดู Warrants

18 กรกฎาคม 2560 ฤดูของ Warrants


วันนี้และเมื่อวานเป็นวันที่ Warrant ออกมาวิ่งกันเยอะมากๆๆๆ วิ่งแบบไม่สนใจพื้นฐาน, ไม่สนใจราคาแปลง , ไม่สนใจ Intrinsic value กันเลยทีเดียว
วันนี้มันทำให้รู้เลยว่า ความโลภเป็นสิ่งนึงที่มันน่ากลัวมากๆ จากที่คุมตัวเองให้เข้าไปซื้อแบบราคาได้น้อยลง จนมาเสียนิสัยก็วันนี้แหละ วันนี้คุมความโลภไม่อยู่เลยจริงๆ เห็นWarrantที่วิ่งแรงๆใน Ticker กราฟไม่ต้องเปิดดูแม่มละ ซื้อแม่มเลย!!!คิดว่าแม่งต้องไปแน่ๆสัก2-3ช่องกูค่อยขายไรงี้ ผลที่ออกมาคือ บางตัว(เกือบทุกตัว)ที่เข้าแล้วโดนทุบนี่บางตัวcut 10ช่องเลยนะ คือมานั่งคิดตอนนี้โอ้โหววววไอ้หน้าโง่มึงทำไรของมึงเนี่ย นึกว่าระยะcut lossของหุ้น Run trendซะอีกไอสัส และนี่ก็คือผลเสียของการไล่ราคาคือ 1.ไม่รู้ว่าจุดที่เข้านั้นอยู่ตรงไหน 2.ไม่รู้ stop loss ที่แน่นอน โดนมันทุบจนมึนกว่าจะตั้งสติและคัทได้ลึกลงไปหลายช่องแล้ว
หลักๆที่กล้าทำให้เข้าไปไล่ราคา Warrant คือมันเป็น Theme ของ Warrant และมีWarrantหลายๆตัวออกมาวิ่งเต็มไปหมด จึงทำให้เกิดความโลภและความมั่นใจเข้าไปซื้อ(ไล่ราคา)ทันทีหลังจากที่เห็นมันvolเข้าจากในTickerเพราะคิดว่าแม่งต้องมาแน่ๆ หลายๆตัวที่เข้าไปมาเปิดกราฟดูย้อนหลังส่วนใหญ่เข้าไปที่Highของมันทั้งนั้น แต่โชคดีที่มีกำไรจากTMC-W1จึงกล้าเล่น(ไล่ราคา)ตัวอื่นๆ
จำไว้เลยว่าถ้าเรามาเห็นตอนที่มันวิ่งในTickerรัวๆนั้นคือราคามหาชนแล้ว คือถ้าคิดจะเข้าไปซื้อช่วงนี้คือช่วงที่คนเห็นทั้งตลาดแล้ว(วิ่งรัวๆในTickerใครๆก็เห็น) ดังนั้นถ้าเราทำการบ้านมาก่อน เราอาจจะเห็นมันก่อนมหาชนแล้วได้กำไรแน่นอน การเข้าไปซื้อโดยไม่ดูอะไรเลยมันเป็นการเทรดโดยใช้อารมณ์(ความโลภ)ล้วนๆ ไม่มีเหตุผลเอาซะเลย สมควรแล้วที่เราจะแพ้เพราะไล่ราคา มันเป็นเกมที่เราอยู่กับฝูงชน(คนส่วนใหญ่) ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีทางที่ฝูงชนกลุ่มใหญ่จะได้กำไรกันทุกคน คนที่ได้กำไรคือคนกลุ่มน้อยที่ซื้อก่อน มหาชนจะเข้ามาไล่ราคา(ด้วยความโลภของแต่ละคน)
ฤดูของ Warrant ในแต่ละปีมีน้อยมากๆ ต้องจับThemeนี้ให้ได้แล้วทำการบ้านให้ดีๆแล้วจะเจอของดี ไม่ทำการบ้านมาก่อนแล้วมาเล่นแบบนี้มันไม่ได้ ไม่ควรอย่างยิ่งเลย เหมือนมาเล่นเสี่ยงดวงอะ

TMC-W1 มีการกระตุกขึ้นมาหลังจากมีBig lot ทรงแบบนี้ต้องห้ามคลาดสายตา

14 กรกฎาคม 2560

TMC-W1 อยู่ในแผนแต่ไม่ได้เฝ้าไว้ บังเอิญมาเห็นใน Ticker เปิดดูกราฟโอเคใช้ได้ จ่อแนวต้าน0.43พอดีตอนที่เห็น หวดตามทันทีที่ 0.43ไม้แรก และพอมันขึ้นไป0.46อีกไม้ (อันนี้ไล่ราคา) ย่อลงมาไม่รู้ว่าจะวางstop lossตรงไหนดี แต่เห็นในVA 0.40 มีbidรับของตลอด จึงตั้งstop lossไว้บริเวณ0.39-0.40
 


ที่สนใจเพราะTMCมีbig lot 4วันติด(รวมวันนี้ด้วย) เป็น big lot ที่ราคาต่ำกว่าตลาดด้วย และมันไม่แสดงใน59-2ด้วยจึงเกิดความสงสัยว่าเป็น Transaction ของใคร ทำไมถึงขายที่ราคาต่ำกว่าตลาด? และTMC-W1ก็มีbig lot ด้วย ที่ราคา0.35 สถานะก็OTM คนที่ซื้อไปคิดอะไรอยู่? มันหมดอายุเดือนธันวาคมปีนี้ด้วย จึงคิดว่าต้องมีเงื่อนงำแน่ๆ



18 กรกฎาคม 2560

ขายTMC-W1ออกไปที่0.61ไม้นึงตามเป้าเพื่อล็อคกำไร สรุปยืนFibo78.6ไม่ได้ย่อลงมาจึงตัดสินใจโยนออกทั้งหมดที่0.58 อาจจะหมูก็ได้ แต่พอใจกำไรที่ได้แล้วตั้งใจเอากำไรมากกว่า จึงตัดสินใจขายออกไปทั้งหมดเลยไม่ถือต่อเพราะมันจะXEประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายน และถ้าแปลงเป็นตัวแม่มันมีPremiumอยู่ประมาณ0.25 และใกล้หมดอายุแล้วคงไม่คุ้มที่จะลุ้น

Big lot ของTMCแท้จริงแล้วคือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหญ่ จากการถือทางอ้อมผ่านทางบริษัท ให้เป็นถือหุ้นทางตรงในนามบุคคลธรรมดาแทน (ข่าวจากSET)


Friday, 14 July 2017

LDC, ไม่วิ่งก็ลาก่อย

11 กรกฎาคม 2560
ห่อ LDC เข้าซื้อที่ 1.53 ตัดสินใจห่อเพราะทรงมันดูรอระเบิดอยู่ ก่อนหน้านี้เป็นขาลงในภาพรวม แต่นี่เริ่มฟอร์มตัวขึ้นมาดูเป็นขาขึ้นhigher high, higher low แต่ภาพรวมยังเป็นขาลง แผนคือโยน 1.52ไม่ได้ก็โยน ยืนได้ลุ้น 1.56 ยืนได้ก็1.63

14 กรกฎาคม 2560
ตัดสินใจขายLDCออกไปที่1.55 ซื้อมาตอนวันที่11/7/2017 ที่ราคา1.53 เพราะมันจ่อbreakเตรียมระเบิด แต่มันขึ้นมาจ่อๆที่1.56ไม่breakซะที ขณะนั้นมีตัวอื่นที่น่าสนใจอยู่ในแผนจึงตัดสินใจโยนออกไปเข้าตัวอื่นก่อน แช่อยู่แบบนี้ไปดีกว่าเพราะภาพรวมของมันก็ไม่น่าถือ Run trend เท่าไหร่






Tuesday, 11 July 2017

MACO พลาดเพราะความไม่รอบคอบไม่ดูภาพใหญ่ให้ดีก่อน

7 กรกฎาคม 2560
ห่อMACO 1.55 เพราะมันเป็นขาขึ้น และได้ย่อลงมาEMA22และไม่หลุด วันนี้มีvol.แค่นิดเดียว จึงตัดสินใจห่อข้ามมาดู วางstop lossที่ 1.53ลงมาก็คัทออก แผนคือถ้าเด้งขึ้นมาชน1.60 ไม่ผ่านก็โยน ยืนได้ก็ลุ้น1.66 ถ้าย่อลง1.53ก็คัท

11 กรกฎาคม 2560
Cut loss ออกไปที่ 1.52 ตามแผน ก่อนหน้านี้ช่วงวันหยุดได้ทำการบ้านดูภาพใหญ่ MACO ออกมาหน่อยใน Time frame Week ทำให้รู้ว่าผมขาดความรอบคอบเสียแล้ว... จะเห็นได้ว่ามันควรย่อมากกว่าเพราะชนแนวต้านใหญ่


MACO Time frame Week


ทรงแบบนี้ไม่คุ้มที่จะเล่นเพราะโอกาสแพ้เยอะ สรุปพลาดตรงที่ไม่ดูให้มันดีก่อน คือขาดความรอบคอบจึงทำให้เลือกหุ้นผิด

 

Saturday, 8 July 2017

ข้อคิดที่ได้จาก Live พี่ Beer Survivortrade

หุ้นที่ขึ้นวันนี้ คือหน้าเทรดของในวันข้างหน้าคืออะไรหว่า???
5 กรกฎาคม 2560 22:58น.
เราจะทำยังไงให้ไปอยู่ในหุ้นที่มันวิ่งได้?
สิ่งที่เราเจอเอามาทำการบ้าน ดูว่ารูปแบบนี้มันเกิดขึ้นครั้งแรก พรุ่งนี้เราทำอีก ถ้าทำแล้วเจอ pattern รูปแบบเดิมๆเราก็สามารถคาดการณ์ได้ว่ามันอาจจะเป็นลักษณะเดียวกัน
สังเกต pattern แล้วกำหนดเงื่อนไขที่จะนำไปใช้เป็นหน้าเทรด สิ่งพวกนี้เป็นความรู้ที่มาจากประสบการณ์ของเรา แล้วก็เอาประสบการณ์ของเราไป back test ไปหาความเชื่อมโยงของหุ้นที่เกี่ยวข้องกัน แล้วก็เอาไปวิเคราะห์แล้วตกตะกอนมาเป็นTrade setup ของเรา แล้วเราก็เอาไปใช้เทรดจริง
เราจะนำรูปแบบนั้นๆมาใช้ได้ จนกว่ามันจะ "เกิดซ้ำๆ" ของรูปแบบนั้น อย่างเช่น20ครั้ง มันเกิดซ้ำแบบนี้18ครั้ง ก็เอาไปกำหนดเป็นTrade setup ได้เลย มาจากการสังเกตของเราเอง เป็นTrade setupใหม่ ที่กำหนดขึ้นมาโดยตัวเราเอง องค์ความรู้ตรงนี้มันจะเกิดมาจากตัวของเราเอง
องค์ความรู้ที่เราศึกษามา เราต้องเข้าใจแก่นของมันก่อน
คนที่เป็นDaytrade และพลาด ปัญหาเดียวที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจาก  Trade setup แต่เกิดจากสิ่งที่คุณรอไม่เป็น รอให้เกิด pattern ซ้ำๆ ที่เราถนัดไม่ได้ รอให้มันเกิดองค์ประกอบ/เงื่อนไข ครบไม่ได้ เช่น มี5องค์ประกอบที่จะเข้า ถึงแค่2องค์ประกอบ กูล่อก่อนเลย
ตอนที่คุณเป็นมนุษย์เงินเดือน คุณทำงาน30วัน ออกจากบ้าน6โมง เพื่อมาทำงาน9โมง กลับบ้าน6โมงไปแย่งกันกลับบ้านอีก เจอนั้นเจอนี่ 30วัน  เพื่อรอเงินเดือน 1เดือนให้คุณ แต่พอมาเทรดหุ้น รอให้เกิดpatternแบบนี้ไม่ได้ ถ้าเกิดpatternแบบนี้เราจะได้เงินต้องท่องไว้แบบนี้ "pattern แบบนี้มา กูได้ตังแน่นอน" จดไว้ ถ้าเกิดไม่ครบก็ไม่ต้องเข้า เข้าทำเหี้ยไรเข้าแล้วเสียเงินก็ไม่ต้องเข้า
เพราะฉะนั้นมันวัดกันตรงวินัยและการรอคอยในจังหวะที่มันใช่สำหรับเรา ถ้ามันเกิดก็ซื้อ ถ้ามันไม่ไปก็ขาย แต่ถ้าเกิดแล้วมันเกิดซ้ำ10ที กูมั่นใจว่ามึงมีโอกาสมาแน่นอน ซื้อเยอะไปเลย แต่ต้องมี stop เสมอเพราะมันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้
การที่เราจะอยู่ในทุกๆตลาดได้ เราต้องมี ความรู้, ประสบการณ์, เงินทุน, บวกกับวินัยและการรอคอยรูปแบบที่เราถนัดให้ได้ ถ้าคุณรอได้คุณก็มีโอกาสจะชนะ ต้องกำหนด conditionและหน้าเทรดให้ชัดเจน
สุดท้ายแล้วเราจะมาติดอยู่กับสิ่งที่มันแทงกับตัวเรา อย่างเช่นpattern ที่ทำการบ้านไว้กำหนด5ครั้ง มันเกิด5ครั้ง พอถึงเวลามาลงสนามจริงกูไม่กล้าวะมันไม่มี bidเลย กูกลัว คำว่า"กูกลัว" มันไม่ได้มีอยู่ในแผนเลย ในแผนมันมีแค่ 1 2 3 4 5 แต่มันไม่มีคำว่ากูกลัว
ความกลัวกับความอยาก(เห็นหุ้นวิ่งในticker) มันคืออารมณ์ ซึ่งไม่มีเหตุผลเลย ซึ่งทั้ง2อย่างนี้มันไม่มีอยู่ในแผนเลย
พี่เบียร์: ผมไม่เคยยอมแพ้ให้ตลาด เพราะผมจะไม่แพ้ ผมไม่รู้จะพูดว่าไง ผมไม่มั่นใจผมก็จะไม่ลงตัง ตังผมก็ไม่แพ้ ตังกูอยู่ในกระเป๋า มึงก็เอาตังกุไปไม่ได้ เก็บความรู้ ประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด และ******ทุนต้องไม่หาย เราจะรู้ว่าข้อจำกัด จุดอ่อนของเราคืออะไร แล้วเราก็แก้ไขตรงนั้น
การเทรดหุ้นมันก็เหมือนกับกีฬาอย่างนึง มันคือการใช้ skill อย่างนึง ทักษะในการซื้อ/ขาย ถ้าคุณฝึกจนชำนาญ ทักษะนี้มันจะไม่มีวันลืม มันอาจจะใช้เวลาปัดสนิมนิดหน่อยแต่มันก็ยังอยู่กับตัวคุณ
ไม่ต้องรีบร้อนที่จะทำกำไรจากตลาด คุณต้องจัดการกับตัวคุณเองก่อนในเรื่องของความรู้ ประสบการณ์ การควบคุมตัวเอง แล้วทุกอย่างมันจะเป็นอัตโนมัติในการจะเข้า จะขาย จะcut loss


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ motivated pictures

Thursday, 6 July 2017

VNT , Break Down Trend Line

6 กรกฎาคม 2560

เข้าซื้อ VNT ไปเมื่อวาน เข้าตรง19.80ตรงที่แนวเส้นกด Down trend line พอดีเพราะได้ทำการบ้านมาไว้แล้ว เข้าซื้อโดยใช้กราฟล้วนๆไม่ได้ดูพื้นฐานมันเลยเพราะจะเล่นแค่สั้นๆเท่านั้นไม่ถือ Run trend แผนคือถ้าbreakได้ห่อ ถ้าfalse ก็โยนออกไป หลังจากที่มันbreakและยืนได้ก็ตัดสินใจห่อข้ามขายในวันนี้ ขายออกไปที่20.90 เพราะยืน52 weeks high ที่21.10ไม่ได้ ย่อลงมาก็ตัดสินใจโยนออกไป ไม่คุ้มที่จะถือห่อเพราะมันวิ่งขึ้นมาเยอะแล้ว


Saturday, 1 July 2017

ครึ่งทางปี 2560

ผ่านไปแล้วครึ่งทางปี 2560...
ครึ่งปีที่ผ่านมานี้ได้เรียนรู้อะไรไปมากมายตลอดเส้นทาง ทำได้บ้าง ล้มเหลวบ้าง แต่สิ่งเหล่านี้ก็ทำให้ผมโตขึ้นทุกๆวัน
ได้ซึมซับ mindset ของการRun trend มาพอสมควร mindset ของการRun trend ที่ผมเข้าใจนั้นมีแค่ ทำการบ้านให้เยอะๆ แผนต้องชัดเจน ส่วนกำไรแล้วแต่ตลาดจะให้ประโยคนี้ผมซึมซับมาจากพี่รักษ์ตอนแรกผมไม่เชื่อ เพราะผมไม่เคยrun trendได้เลย จนกระทั่งมาrun ORIได้ ทำให้ผมเข้าใจการRun trendมากขึ้น คือต้องทนตอนมันย่อให้ได้ มันขึ้นมามันก็ต้องมีย่อบ้างเป็นธรรมดา 
กราฟราคาและvol. จะแสดงให้เราเห็นถึงทิศทางและพื้นฐานจะช่วยสนับสนุนในการถือมันไป ก่อนจะซื้ออย่างน้อยก็ควรรู้ว่าบริษัทผลการดำเนินงานเป็นไง มีกำไรมั้ย? รายได้ กำไรโตขึ้นมั้ย? บริษัททำอะไรค้าขายอะไร? ปัจจัยที่จะมาทำให้บริษัทโตคืออะไร(ตรงนี้หาค่อนข้างยากมากๆ จะรู้ตัวกระตุ้นได้ เราต้องเข้าใจธุรกิจมันจริงๆ)?
การRun trendที่ดีควรนึกถึงสภาวะตลาดโดยรวมด้วย เหมือนกับMentos gameที่พี่รักษ์สอน ภาวะตลาดที่เล่นแล้วเสียเปรียบ(ขาลง)หรือไม่แน่นอน ถ้าอยากจะเสี่ยงเล่นก็ควรเล่นแบบวางเงินน้อยๆหรือถ้าไม่เล่นเลยดีที่สุด(เล่นแล้วมีโอกาสแพ้เยอะจะเข้าไปเล่นทำไม?) ระหว่างนั้นนี้ทำการบ้านให้เยอะๆเพื่อรอเล่นในตอนที่ตลาดเป็นขาขึ้นหรือเล่นในตอนที่เรารู้สึกมั่นใจ(มั่นใจจากการทำการบ้าน ไม่ใช่มั่นใจจากความรู้สึกหรือโลภ) พอถึงตอนนั้นต้องกล้าอัด

ในส่วนของการ Daytrade นั้น Hit rateก็ยังแย่เหมือนเดิม ผมก็ยังติดนิสัยเดิมคือชอบไปเล่นหน้างาน คือดูTickerแล้วเข้าไปซื้อ ส่วนใหญ่ตอนที่เราเห็นมันรัวๆในticker จะเป็นจังหวะที่มันไล่ราคาซะมากกว่าคือเข้าไปเล่นก็เสียเปรียบ เพราะไม่รู้ไม่เห็นกราฟของมันและไม่รู้ stop lossที่แน่นอน ได้มีโอกาสเข้าไปใช้สิทธิ One day pass ที่ Supertrader Republic ได้เข้าไปฟังพี่ซันบรีฟและเห็นการทำการบ้านของพี่ซัน ก็ทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆมาประยุกต์ผสมผสานมากขึ้น ซึ่งจะนำไปลองปรับใช้ดูในครึ่งปีหลัง
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการdaytradeในครึ่งปีนี้คือ 1. ควรวางMoney management ให้เหมาะกับลักษณะนิสัยของหุ้นแต่ละตัว(จะรู้ได้จากการสังเกตและประสบการณ์) 2. ถ้าเข้าไม่ทันอย่าเข้าไปไล่ราคาเด็ดขาด !!! หาตัวใหม่อย่าไปยึดติดกับมันปล่อยผ่านไปเลย ค่อยมาเล่นอีกทีตอนมันย่อรอยิงรอบสอง 3. จุดที่เข้าควรเป็นจุดที่มันเตรียมวิ่ง ไม่ใช่วิ่งแล้วค่อยเข้าไป(ไล่ราคา) 4. พยายามเล่นในจุดที่ได้เปรียบ อย่างเช่น ไปเปิดดูกราฟเห็นว่ามันกำลังอยู่ใกล้ๆเป้าfibo 61.8 ก็อย่าไปเล่นเลยแบบนี้เสียเปรียบเพราะมีโอกาสเป็นแนวต้านที่ผ่านยาก 5. อารมณ์ระหว่างวันเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ที่สังเกตตัวเองถ้าวันไหนรู้สึกสดชื่น, happy, motivated วันนั้นจะเทรดได้ค่อนข้างดีเลย ดังนั้นไม่ควรฝืนเทรดตอนmindsetเสีย ปิดจอแล้วไปหาอย่างอื่นทำดีที่สุด 6. ถ้าทำการบ้านมาดีและมีแผนรู้stop loss เราจะมีกรอบของการเล่นที่ชัดเจน

ในปัจจุบันทุกคนสามารถดูกราฟได้เหมือนกันหมดทุกคน มีระบบต่างๆ การเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เท่าเทียมกัน แต่อย่างว่าที่นี่คือตลาดหุ้นเป็นที่ๆ100คน 100ความคิดจริงๆ ไม่มีระบบไหนได้เปรียบกว่าใครหรอก สุดท้ายมันมาวัดกันที่คุณเข้าใจระบบของคุณดีแค่ไหนและใช้มันได้คมแค่ไหน

สุดท้ายแล้วเราต้องเข้าใจระบบที่เราใช้อย่างถ่องแท้ว่ามันถูกกับจริตเรามั้ย และฝึกระบบนั้นให้คมตลอดเวลาทุกๆวัน หยุดเมื่อไหร่ก็ขึ้นสนิม JJJ