Saturday 1 July 2017

ครึ่งทางปี 2560

ผ่านไปแล้วครึ่งทางปี 2560...
ครึ่งปีที่ผ่านมานี้ได้เรียนรู้อะไรไปมากมายตลอดเส้นทาง ทำได้บ้าง ล้มเหลวบ้าง แต่สิ่งเหล่านี้ก็ทำให้ผมโตขึ้นทุกๆวัน
ได้ซึมซับ mindset ของการRun trend มาพอสมควร mindset ของการRun trend ที่ผมเข้าใจนั้นมีแค่ ทำการบ้านให้เยอะๆ แผนต้องชัดเจน ส่วนกำไรแล้วแต่ตลาดจะให้ประโยคนี้ผมซึมซับมาจากพี่รักษ์ตอนแรกผมไม่เชื่อ เพราะผมไม่เคยrun trendได้เลย จนกระทั่งมาrun ORIได้ ทำให้ผมเข้าใจการRun trendมากขึ้น คือต้องทนตอนมันย่อให้ได้ มันขึ้นมามันก็ต้องมีย่อบ้างเป็นธรรมดา 
กราฟราคาและvol. จะแสดงให้เราเห็นถึงทิศทางและพื้นฐานจะช่วยสนับสนุนในการถือมันไป ก่อนจะซื้ออย่างน้อยก็ควรรู้ว่าบริษัทผลการดำเนินงานเป็นไง มีกำไรมั้ย? รายได้ กำไรโตขึ้นมั้ย? บริษัททำอะไรค้าขายอะไร? ปัจจัยที่จะมาทำให้บริษัทโตคืออะไร(ตรงนี้หาค่อนข้างยากมากๆ จะรู้ตัวกระตุ้นได้ เราต้องเข้าใจธุรกิจมันจริงๆ)?
การRun trendที่ดีควรนึกถึงสภาวะตลาดโดยรวมด้วย เหมือนกับMentos gameที่พี่รักษ์สอน ภาวะตลาดที่เล่นแล้วเสียเปรียบ(ขาลง)หรือไม่แน่นอน ถ้าอยากจะเสี่ยงเล่นก็ควรเล่นแบบวางเงินน้อยๆหรือถ้าไม่เล่นเลยดีที่สุด(เล่นแล้วมีโอกาสแพ้เยอะจะเข้าไปเล่นทำไม?) ระหว่างนั้นนี้ทำการบ้านให้เยอะๆเพื่อรอเล่นในตอนที่ตลาดเป็นขาขึ้นหรือเล่นในตอนที่เรารู้สึกมั่นใจ(มั่นใจจากการทำการบ้าน ไม่ใช่มั่นใจจากความรู้สึกหรือโลภ) พอถึงตอนนั้นต้องกล้าอัด

ในส่วนของการ Daytrade นั้น Hit rateก็ยังแย่เหมือนเดิม ผมก็ยังติดนิสัยเดิมคือชอบไปเล่นหน้างาน คือดูTickerแล้วเข้าไปซื้อ ส่วนใหญ่ตอนที่เราเห็นมันรัวๆในticker จะเป็นจังหวะที่มันไล่ราคาซะมากกว่าคือเข้าไปเล่นก็เสียเปรียบ เพราะไม่รู้ไม่เห็นกราฟของมันและไม่รู้ stop lossที่แน่นอน ได้มีโอกาสเข้าไปใช้สิทธิ One day pass ที่ Supertrader Republic ได้เข้าไปฟังพี่ซันบรีฟและเห็นการทำการบ้านของพี่ซัน ก็ทำให้ได้ความรู้ใหม่ๆมาประยุกต์ผสมผสานมากขึ้น ซึ่งจะนำไปลองปรับใช้ดูในครึ่งปีหลัง
สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากการdaytradeในครึ่งปีนี้คือ 1. ควรวางMoney management ให้เหมาะกับลักษณะนิสัยของหุ้นแต่ละตัว(จะรู้ได้จากการสังเกตและประสบการณ์) 2. ถ้าเข้าไม่ทันอย่าเข้าไปไล่ราคาเด็ดขาด !!! หาตัวใหม่อย่าไปยึดติดกับมันปล่อยผ่านไปเลย ค่อยมาเล่นอีกทีตอนมันย่อรอยิงรอบสอง 3. จุดที่เข้าควรเป็นจุดที่มันเตรียมวิ่ง ไม่ใช่วิ่งแล้วค่อยเข้าไป(ไล่ราคา) 4. พยายามเล่นในจุดที่ได้เปรียบ อย่างเช่น ไปเปิดดูกราฟเห็นว่ามันกำลังอยู่ใกล้ๆเป้าfibo 61.8 ก็อย่าไปเล่นเลยแบบนี้เสียเปรียบเพราะมีโอกาสเป็นแนวต้านที่ผ่านยาก 5. อารมณ์ระหว่างวันเป็นสิ่งที่สำคัญมากๆ ที่สังเกตตัวเองถ้าวันไหนรู้สึกสดชื่น, happy, motivated วันนั้นจะเทรดได้ค่อนข้างดีเลย ดังนั้นไม่ควรฝืนเทรดตอนmindsetเสีย ปิดจอแล้วไปหาอย่างอื่นทำดีที่สุด 6. ถ้าทำการบ้านมาดีและมีแผนรู้stop loss เราจะมีกรอบของการเล่นที่ชัดเจน

ในปัจจุบันทุกคนสามารถดูกราฟได้เหมือนกันหมดทุกคน มีระบบต่างๆ การเข้าถึงข้อมูลที่ไม่เท่าเทียมกัน แต่อย่างว่าที่นี่คือตลาดหุ้นเป็นที่ๆ100คน 100ความคิดจริงๆ ไม่มีระบบไหนได้เปรียบกว่าใครหรอก สุดท้ายมันมาวัดกันที่คุณเข้าใจระบบของคุณดีแค่ไหนและใช้มันได้คมแค่ไหน

สุดท้ายแล้วเราต้องเข้าใจระบบที่เราใช้อย่างถ่องแท้ว่ามันถูกกับจริตเรามั้ย และฝึกระบบนั้นให้คมตลอดเวลาทุกๆวัน หยุดเมื่อไหร่ก็ขึ้นสนิม JJJ


No comments:

Post a Comment