หุ้นที่ขึ้นวันนี้ คือหน้าเทรดของในวันข้างหน้าคืออะไรหว่า???
5 กรกฎาคม 2560 22:58น.
5 กรกฎาคม 2560 22:58น.
เราจะทำยังไงให้ไปอยู่ในหุ้นที่มันวิ่งได้?
สิ่งที่เราเจอเอามาทำการบ้าน ดูว่ารูปแบบนี้มันเกิดขึ้นครั้งแรก พรุ่งนี้เราทำอีก ถ้าทำแล้วเจอ pattern รูปแบบเดิมๆเราก็สามารถคาดการณ์ได้ว่ามันอาจจะเป็นลักษณะเดียวกัน
สังเกต pattern แล้วกำหนดเงื่อนไขที่จะนำไปใช้เป็นหน้าเทรด สิ่งพวกนี้เป็นความรู้ที่มาจากประสบการณ์ของเรา แล้วก็เอาประสบการณ์ของเราไป back test ไปหาความเชื่อมโยงของหุ้นที่เกี่ยวข้องกัน แล้วก็เอาไปวิเคราะห์แล้วตกตะกอนมาเป็นTrade setup ของเรา แล้วเราก็เอาไปใช้เทรดจริง
เราจะนำรูปแบบนั้นๆมาใช้ได้ จนกว่ามันจะ "เกิดซ้ำๆ" ของรูปแบบนั้น อย่างเช่น20ครั้ง มันเกิดซ้ำแบบนี้18ครั้ง ก็เอาไปกำหนดเป็นTrade setup ได้เลย มาจากการสังเกตของเราเอง เป็นTrade setupใหม่ ที่กำหนดขึ้นมาโดยตัวเราเอง องค์ความรู้ตรงนี้มันจะเกิดมาจากตัวของเราเอง
องค์ความรู้ที่เราศึกษามา เราต้องเข้าใจแก่นของมันก่อน
คนที่เป็นDaytrade และพลาด ปัญหาเดียวที่เกิดขึ้นไม่ได้เกิดจาก Trade setup แต่เกิดจากสิ่งที่คุณรอไม่เป็น รอให้เกิด pattern ซ้ำๆ ที่เราถนัดไม่ได้ รอให้มันเกิดองค์ประกอบ/เงื่อนไข ครบไม่ได้ เช่น มี5องค์ประกอบที่จะเข้า ถึงแค่2องค์ประกอบ กูล่อก่อนเลย
ตอนที่คุณเป็นมนุษย์เงินเดือน คุณทำงาน30วัน ออกจากบ้าน6โมง เพื่อมาทำงาน9โมง กลับบ้าน6โมงไปแย่งกันกลับบ้านอีก เจอนั้นเจอนี่ 30วัน เพื่อรอเงินเดือน 1เดือนให้คุณ แต่พอมาเทรดหุ้น รอให้เกิดpatternแบบนี้ไม่ได้ ถ้าเกิดpatternแบบนี้เราจะได้เงินต้องท่องไว้แบบนี้ "pattern แบบนี้มา กูได้ตังแน่นอน" จดไว้ ถ้าเกิดไม่ครบก็ไม่ต้องเข้า เข้าทำเหี้ยไรเข้าแล้วเสียเงินก็ไม่ต้องเข้า
เพราะฉะนั้นมันวัดกันตรงวินัยและการรอคอยในจังหวะที่มันใช่สำหรับเรา ถ้ามันเกิดก็ซื้อ ถ้ามันไม่ไปก็ขาย แต่ถ้าเกิดแล้วมันเกิดซ้ำ10ที กูมั่นใจว่ามึงมีโอกาสมาแน่นอน ซื้อเยอะไปเลย แต่ต้องมี stop เสมอเพราะมันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้
การที่เราจะอยู่ในทุกๆตลาดได้ เราต้องมี ความรู้, ประสบการณ์, เงินทุน, บวกกับวินัยและการรอคอยรูปแบบที่เราถนัดให้ได้ ถ้าคุณรอได้คุณก็มีโอกาสจะชนะ ต้องกำหนด conditionและหน้าเทรดให้ชัดเจน
สุดท้ายแล้วเราจะมาติดอยู่กับสิ่งที่มันแทงกับตัวเรา อย่างเช่นpattern ที่ทำการบ้านไว้กำหนด5ครั้ง มันเกิด5ครั้ง พอถึงเวลามาลงสนามจริงกูไม่กล้าวะมันไม่มี bidเลย กูกลัว คำว่า"กูกลัว" มันไม่ได้มีอยู่ในแผนเลย ในแผนมันมีแค่ 1 2 3 4 5 แต่มันไม่มีคำว่ากูกลัว
ความกลัวกับความอยาก(เห็นหุ้นวิ่งในticker) มันคืออารมณ์ ซึ่งไม่มีเหตุผลเลย ซึ่งทั้ง2อย่างนี้มันไม่มีอยู่ในแผนเลย
ตอนที่คุณเป็นมนุษย์เงินเดือน คุณทำงาน30วัน ออกจากบ้าน6โมง เพื่อมาทำงาน9โมง กลับบ้าน6โมงไปแย่งกันกลับบ้านอีก เจอนั้นเจอนี่ 30วัน เพื่อรอเงินเดือน 1เดือนให้คุณ แต่พอมาเทรดหุ้น รอให้เกิดpatternแบบนี้ไม่ได้ ถ้าเกิดpatternแบบนี้เราจะได้เงินต้องท่องไว้แบบนี้ "pattern แบบนี้มา กูได้ตังแน่นอน" จดไว้ ถ้าเกิดไม่ครบก็ไม่ต้องเข้า เข้าทำเหี้ยไรเข้าแล้วเสียเงินก็ไม่ต้องเข้า
เพราะฉะนั้นมันวัดกันตรงวินัยและการรอคอยในจังหวะที่มันใช่สำหรับเรา ถ้ามันเกิดก็ซื้อ ถ้ามันไม่ไปก็ขาย แต่ถ้าเกิดแล้วมันเกิดซ้ำ10ที กูมั่นใจว่ามึงมีโอกาสมาแน่นอน ซื้อเยอะไปเลย แต่ต้องมี stop เสมอเพราะมันอาจจะไม่เกิดขึ้นก็ได้
การที่เราจะอยู่ในทุกๆตลาดได้ เราต้องมี ความรู้, ประสบการณ์, เงินทุน, บวกกับวินัยและการรอคอยรูปแบบที่เราถนัดให้ได้ ถ้าคุณรอได้คุณก็มีโอกาสจะชนะ ต้องกำหนด conditionและหน้าเทรดให้ชัดเจน
สุดท้ายแล้วเราจะมาติดอยู่กับสิ่งที่มันแทงกับตัวเรา อย่างเช่นpattern ที่ทำการบ้านไว้กำหนด5ครั้ง มันเกิด5ครั้ง พอถึงเวลามาลงสนามจริงกูไม่กล้าวะมันไม่มี bidเลย กูกลัว คำว่า"กูกลัว" มันไม่ได้มีอยู่ในแผนเลย ในแผนมันมีแค่ 1 2 3 4 5 แต่มันไม่มีคำว่ากูกลัว
ความกลัวกับความอยาก(เห็นหุ้นวิ่งในticker) มันคืออารมณ์ ซึ่งไม่มีเหตุผลเลย ซึ่งทั้ง2อย่างนี้มันไม่มีอยู่ในแผนเลย
พี่เบียร์: ผมไม่เคยยอมแพ้ให้ตลาด เพราะผมจะไม่แพ้ ผมไม่รู้จะพูดว่าไง ผมไม่มั่นใจผมก็จะไม่ลงตัง ตังผมก็ไม่แพ้ ตังกูอยู่ในกระเป๋า มึงก็เอาตังกุไปไม่ได้ เก็บความรู้ ประสบการณ์ให้ได้มากที่สุด และ******ทุนต้องไม่หาย เราจะรู้ว่าข้อจำกัด จุดอ่อนของเราคืออะไร แล้วเราก็แก้ไขตรงนั้น
การเทรดหุ้นมันก็เหมือนกับกีฬาอย่างนึง มันคือการใช้ skill อย่างนึง ทักษะในการซื้อ/ขาย ถ้าคุณฝึกจนชำนาญ ทักษะนี้มันจะไม่มีวันลืม มันอาจจะใช้เวลาปัดสนิมนิดหน่อยแต่มันก็ยังอยู่กับตัวคุณ
ไม่ต้องรีบร้อนที่จะทำกำไรจากตลาด คุณต้องจัดการกับตัวคุณเองก่อนในเรื่องของความรู้ ประสบการณ์ การควบคุมตัวเอง แล้วทุกอย่างมันจะเป็นอัตโนมัติในการจะเข้า จะขาย จะcut loss
การเทรดหุ้นมันก็เหมือนกับกีฬาอย่างนึง มันคือการใช้ skill อย่างนึง ทักษะในการซื้อ/ขาย ถ้าคุณฝึกจนชำนาญ ทักษะนี้มันจะไม่มีวันลืม มันอาจจะใช้เวลาปัดสนิมนิดหน่อยแต่มันก็ยังอยู่กับตัวคุณ
ไม่ต้องรีบร้อนที่จะทำกำไรจากตลาด คุณต้องจัดการกับตัวคุณเองก่อนในเรื่องของความรู้ ประสบการณ์ การควบคุมตัวเอง แล้วทุกอย่างมันจะเป็นอัตโนมัติในการจะเข้า จะขาย จะcut loss
No comments:
Post a Comment